ติดต่อเรา
โปรโมชั่น
เข้าสู่ระบบ
สมัคร
สมาชิก
ลืมรหัสผ่าน
SMS OTP ยืนยัน
กรอกรหัสผ่านใหม่ของคุณ
คุณยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ?
หรือ
Term and condition
สมัครสมาชิก
ลาสเวกัสหรือในชื่อเต็มว่า City of Las Vegas โดยชื่อของลาสเวกัสนั้นมาจากภาษาสเปนหมายถึงทุ่งหญ้าหรือที่ราบ ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงแห่งการท่องเที่ยว ย่านแสงสี และ การพนัน เมืองลาสเวกัสได้รับการขนานนามจากชาวอเมริกันและคนทั่วโลกว่า “เมืองแห่งบาป” (Sin city) มีทั้งนักธุรกิจมากมายที่เข้ามาลงทุนในเมืองลาสเวกัสแห่งนี้พร้อมกับตักตวงผลกำไรที่ได้ไปอย่างมหาศาล มีนักท่องเที่ยว และนักพนันแสวงโชคหลั่งไหลเข้าออกแทบจะตลอดเวลา นอกจากจะโดดเด่นด้านบ่อนการพนันและคาสิโนแล้ว ก็ยังเต็มไปด้วยโรงแรมชื่อดังระดับโลก ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมแห่งสหรัฐอเมริกา ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งหาได้ยากในการที่จะมีทุกอย่างมารวมกันอยู่อย่างหนาแน่นในเมืองเมืองเดียวแห่งนี้
วันนี้เรามาทำความรู้จักกันดีกว่าว่าเมืองลาสเวกัสก่อนหน้านี้เป็นยังไง และทำไมไป ๆ มา ๆ ถึงกลายมาเป็นเมืองแห่ง การพนัน ได้
แรกเริ่มเดิมทีแล้วเมืองลาสเวกัสนั้นได้รับการรู้จักในฐานะเมืองแห่งทะเลทราย พื้นที่รกร้าง ความเจริญเข้าไม่ถึง ไม่มีแม้แต่ถนนจะตัดผ่านถึงด้วยซ้ำ ประชาชนกว่าแปดร้อยคนที่อยู่ในเมืองก็ใช้ชีวิตด้วยการทำเหมือง การค้าขาย ซึ่งถือว่ามีประชากรน้อยมากเมื่อเทียบกับเมืองอื่นของสหรัฐอเมริกา จนทำให้หลายคนเบือนหน้าหนีไม่เคยแม้แต่จะให้ความสนใจ อย่าว่าแต่การพนันเลย ความเจริญอะไรก็ยังเข้าไม่ถึง แล้วทำไมถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้กันนะ มาเริ่มเรียงลำดับช่วงเวลากัน
จุดเปลี่ยนแปลงได้เริ่มจากการสร้างทางรถไฟที่เมืองลาสเวกัสเพื่อเชื่อมต่อไปยังเมือง Salt Lake ด้วยเหตุผลว่าเพื่อให้ผู้คนสัญจรจากผ่านทะเลทรายรกร้างได้ง่ายดายขึ้น ซึ่งจุดพักของรถไฟสำหรับนักเดินทางนั้นก็กลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหม่ เมื่อมีผู้อยากซื้อ จึงมีผู้ขาย ก่อกำเนิดร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ร้านเหล้าผุดขึ้นมาตักตวงโอกาสเป็นดอกเห็ด ก่อนจะตามมาด้วยย่านโคมแดงที่อยู่เฉพาะบล็อกที่ 16 ของเมือง ที่แห่งนั้นกลายเป็นย่านของคนกลางคืน เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุ ที่อโคจร และบ่อนการพนัน
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1929 โลกเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ สหรัฐอเมริกาประสบกับปัญหาคนตกงานและคนว่างงานจำนวนมาก รัฐบาลสหรัฐฯ จึงแก้ไขปัญหาด้วยการริเริ่มโครงการสร้างเขื่อนฮูเวอร์ด้วยงบประมาณจำนวนมหาศาล เพื่อให้คนอเมริกันเหล่านั้นได้มีงานทำและมีเงินในการดำรงชีพ เลี้ยงครอบครัวของตนได้
แต่เพราะเหตุนั้นเองทำให้มีคนงานและครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ จนทำให้จำนวนของประชากรเริ่มหนาตาขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีหลายคนที่เลือกมาลงหลักปักฐานที่นี่เพราะความครึกครื้นและการหมุนเวียนของเม็ดเงินอันเกิดจากย่านกลางคืนและบ่อนการพนันอีกด้วย
ซึ่งชื่อของเขื่อนฮูเวอร์ได้ตั้งชื่อตามประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ ต่อมาเขื่อนแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และติดอับดับสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ของโลก ในสมัยนั้นถือว่าเป็นสิ่งเหลือเชื่อที่พลิกประวัติศาสตร์ของวงการวิศวกรรมเลยทีเดียว
สองปีหลังจากโครงการสร้างเขื่อนฮูเวอร์ โธมัส เอ็น แคโรลล์ (Thomas N. Carroll) นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้เล็งเห็นบางอย่างจากลาสเวกัส และทำการเสนอโครงการพัฒนาที่ดินรวมถึงโน้มน้าวผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน สภารัฐเนวาดาจึงได้มีการพิจารณายกเลิกข้อกำหนดห้ามเล่นการพนันตามข้อเสนอของโธมัส จนในที่ก็ออกประกาศให้การเล่นพนันและบ่อนคาสิโนเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป ทำให้แรงงานจำนวนมากจากเขื่อนฮูเวอร์พากันเล่นการพนัน และใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย จากเมืองเหมืองแร่ที่แทบไม่มีใครสนใจ ก็กลายเป็นเมืองทองคำที่ไม่ว่าใครก็อยากเข้ามาแสวงโชค
ลาสเวกัสได้รับชื่อเมืองคนบาปมาในตอนนี้นี่เอง เนื่องจากเริ่มมีแหล่งเริงรมย์ก็เกิดการหมุนเวียนของเงินและผู้คนจำนวนมาก อีกทั้ง ณ เวลานั้นมีคดีอาชญากรรมพุ่งขึ้นสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยส่วนใหญ่ก็เกิดจากย่านกลางคืนและการพนันนั่นแหละ
ต่อมาในช่วงต้นคริสตวรรษที่ 1940 ก็ได้เกิดสิ่งก่อสร้างอย่างบ่อนคาสิโนเอลรันโช่ (El Rancho) และคาสิโนฟลามิงโก (Flamingo) ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโรงแรมกับบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ในเมืองลาสเวกัส ยิ่งเวลาผ่านไปเมืองนี้ก็ยิ่งมีการเติบโตในด้านการพนันมากขึ้นเรื่อย ๆ มีกระทั่งดาราชื่อดังแวะมาเยี่ยมเยือนทำให้ชื่อเสียงของเมืองยิ่งดังกระฉ่อนออกไปอีก จนได้มีชื่อเล่นอีกอย่างคือ สวนสนุกของสหรัฐอเมริกา (Playground of the United States)
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะต้องพบเจอกับปัญหาหลังสงครามโลก การแบ่งแยกเชื้อชาติ สงครามเย็น แต่ช่วงนั้นกลับถูกเรียกได้ว่ายุคเฟื่องของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว และกองกำลังทหารที่ปรากฏตัวขึ้นในเมืองลาสเวกัส ก็มีส่วนช่วยให้มีการขยายเมืองเกิดขึ้น และกลายเป็นที่ลงทุนของนักธุรกิจ รวมถึงอุตสาหกรรมบันเทิงจำนวนมากด้วยเช่นกัน ลาสเวกัสจึงได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด โด่งดังไปทั่วทุกมุมโลกด้านเมืองแห่งการเอนเตอร์เทนต์เมนต์อย่างไร้ข้อกังขา แต่ก็มาพร้อมกับชื่อเสียงของแดนแห่งการพนันด้วยเช่นกัน
เพียงแค่นี้ก็พอจะรู้จักช่วงเวลาต่าง ๆ ที่สำคัญกับการก่อเกิดของเมืองแห่งการพนันลาสเวกัสแล้วใช่ไหมล่ะ น่าประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียวที่เมืองซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีและความครึกครื้นในปัจจุบันนี้จะเริ่มมาจากการที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากฝุ่นทรายบนทุ่งราบ อาจจะเพราะว่ามีมนุษย์ที่ไหน ความเจริญมักจะตามไปด้วยที่นั่นก็เป็นได้ และที่ไหนมีมนุษย์ที่นั่นย่อมมีการพนันเองก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญด้วย
ในตอนหน้าเราจะมากล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเมืองลาสเวกัสกัน ว่าสุดท้ายแล้วการพัฒนาเหล่านั้นได้มาจบลงที่ตรงไหน และกำลังไปในทิศทางไหน