บาคาร่า เป็นเกมส์พนันไพ่ที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างมากในต่างประเทศ โดย baccarat เป็นภาษาฝรั่งเศส มีรากศัพท์มาจากภาษาอิตาลีที่แปลว่า 0 โดยช่วงปลายศตวรรษที่ 15 มีนักพนันชาวอิตาลีเป็นคนคิดค้นบาคาร่าขึ้นมา จนต่อมาเริ่มเป็นที่แพร่หลายในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8 ประเทศฝรั่งเศสและเป็นกลายเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ทำให้บาคาร่าเป็นเกมส์พนันไพ่ที่มีประวัติการมาอย่างยาวนาน และด้วยวิธีการเล่นบาคาร่าก็มีความยุติธรรมมากกว่าป๊อกเด้งเป็นอย่างมาก

การเล่น บาคาร่า จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายให้เลือกเดิมพัน คือ

• ฝ่ายน้ำเงินหรือฝ่ายผู้เล่น (PLAYER) 
• ฝ่ายแดงหรือฝ่ายเจ้ามือ (BANKER)

วิธีการวางเดิมพันเล่น บาคาร่า

• การวางเดิมพันทาง Player (ผู้เล่น) ซึ่งอัตราการจ่ายคือ 1 ต่อ 1
• การวางเดิมพันทาง Banker (เจ้ามือ) ซึ่งอัตราการจ่ายคือ 1 ต่อ 0.95
• การวางเดิมพันทาง Tie Game (เสมอ) ซึ่งอัตราการจ่ายคือ 1 ต่อ 8
• การวางเดิมพันทาง Player Pair (ผู้เล่นคู่) จะเป็นการออกไพ่คู่หรือไพ่ที่มีหน้าเหมือนกัน 2 ใบแรก (ฝ่ายผู้เล่น) ซึ่งอัตราการจ่ายคือ 1 ต่อ 11
• การวางเดิมพันทาง Banker Pair (เจ้ามือคู่) จะเป็นการออกไพ่คู่หรือหน้าไพ่ที่เหมือนกันใน 2 ใบแรก (ฝ่ายเจ้ามือ) ซึ่งอัตราการจ่ายคือ 1 ต่อ 11
• การวางเดิมพันทาง Either-Pair (ไพ่เบิ้ล) จะเป็นการออกหน้าไพ่ 2 ใบแรก ที่เจ้ามือหรือผู้เล่นได้หมายเลขเดียวกัน หรือตัวอักษรเดียวกัน ซึ่งอัตราการจ่ายคือ 1 ต่อ 5
• การวางเดิมพันทาง Perfect-Pair (ไพ่เบิ้ลฟลัช) จะเป็นการออกหน้าไพ่ 2 ใบแรก ที่เจ้ามือหรือผู้เล่นได้หมายเลขเดียวกัน หรือตัวอักษรเดียวกัน และต้องมีดอกสีเดียวกัน ซึ่งอัตราการจ่ายคือ 1 ต่อ 25
• การวางเดิมพันทาง Big (ใหญ่) เป็นการวางเดิมพันแบบแจกไพ่ โดยแต่ละตาจะต้องมีจำนวนไพ่รวมกันถึง 5 หรือ 6 ใบ ซึ่งอัตราการจ่ายคือ 1 ต่อ 0.53
• การวางเดิมพันทาง Small (เล็ก)  เป็นการวางเดิมพันแบบแจกไพ่ โดยแต่ละตาจะต้องมีจำนวนไพ่ 4 ใบ ซึ่งอัตราการจ่ายคือ 1 ต่อ 1.45

วิธีการนับแต้มของไพ่บาคาร่า

• ไพ่ที่เป็นตัวเลข 2 – 9  จะนับแต้มจากหน้าไพ่
• ไพ่ที่เป็นตัวเลข 10 จะเท่ากับ 0 แต้ม 
• ไพ่ A เท่ากับ 1 แต้ม
• ไพ่ J เท่ากับ 0 แต้ม
• ไพ่ Q เท่ากับ 0 แต้ม
• ไพ่ K  เท่ากับ 0 แต้ม 

วิธีการเล่นบาคาร่า

การเล่นบาคาร่าจะมีฝ่ายผู้เล่น (PLAYER) และฝ่ายเจ้ามือ (BANKER)  เริ่มเล่นด้วยไพ่ ฝ่ายละ 2 ใบ ตัดสินผลแพ้ชนะได้จากการนับแต้มบนไพ่ ฝ่ายไหนได้แต้มใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุดก็จะเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งจะนับแต้มที่อยู่บนไพ่ที่ได้ เช่น ไพ่เลข 2 – 9 เท่ากับ 2 – 9  แต้ม, ไพ่เลข 10 J Q K เท่ากับ 0 แต้ม และไพ่  A เท่ากับ 1 แต้ม ถ้าหากบวกแต้มบนไพ่แล้วได้รวมกันเกิน 10 แต้ม ก็จะกลายเป็น 0 แต้มทันที เช่น 9 + 6 = 15 จะได้แต้มเท่ากับ 5 แต้ม หากฝ่ายไหนมีแต้มบนไพ่มากที่สุด ก็จะถือว่าฝ่ายนั้นเป็นผู้ชนะ นี่จึงเป็นเหตุผล ว่าทำไมบาคาร่าถึงเหมาะกับนักพนันมือใหม่ เพราะการเล่นบาคาร่าเพียงแค่ผู้เล่นเลือกไพ่ได้ถูก ก็จะมีโอกาสได้เงินเป็นมหาศาล

บาคาร่าเป็นเกมส์คาสิโนที่มีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีนักพนันนิยมเล่นบาคาร่ามากที่สุด ซึ่งเกมส์บาคาร่ามีรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่ายและเป็นเกมส์ที่มีอัตราการชนะสูงกว่าเกมส์อื่น ๆ ดังนั้นบาคาร่าจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักพนันมือใหม่เพราะเป็นเกมส์ไพ่ที่เล่นง่ายและยุติธรรมเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีอัตราการจ่ายที่สูงมาก ทำให้นักพนันมือใหม่มีโอกาสที่จะได้กำไรสูงอย่างรวดเร็วอีกด้วย