บ่อนเบี้ย การพนันไทยในอดีต เมื่อก่อนไทยเคยถูกกฎหมาย (part 1)
บ่อนเบี้ย การพนันไทยในอดีต เมื่อก่อนไทยเคยถูกกฎหมาย (part 1)

            หากพูดถึงบ่อนการ พนัน ในไทยแล้ว ทุกคนคงจะนึกถึงธุรกิจผิดกฎหมายเป็นอันดับแรก เพราะในตอนนี้เวลานี้การพนันคือคำต้องห้าม และเรื่องผิดกฎหมายในประเทศไทยตามบัญญัติ แต่รู้หรือเปล่าก่อนที่การพนันจะกลายเป็นเรื่องผิดในปัจจุบัน สมัยก่อนประเทศไทยเคยอนุญาตและตั้งบ่อน จัดเก็บภาษีบ่อน เหมือนกับประเทศอื่นที่มีคาสิโนถูกกฎหมายทุกประการ ในบทความนี้เราจะพาทุกคนเล่าย้อนถึงการมีอยู่และหายไปของบ่อน พนัน ในไทยกัน

ทำความรู้จักกับบ่อนเบี้ย เบื้องต้น

            บ่อนเบี้ย ถูกใช้จำกัดความว่าเป็น สถานที่เล่นถั่วโป มีนายบ่อน (เจ้าของบ่อน) ประมูลขอตั้งบ่อนจากหลวง โดยสัญญาว่าจะส่งเงินเข้าพระคลังปีละเท่าไรตามแต่ตกลงกัน ซึ่งรัฐบาลได้ให้ยกเลิกในปี พ.ศ. 25431 โดยในทุกวันนี้คนไทยก็ยังคงติดเรียกแหล่งเล่นการพนันว่าบ่อนอยู่

            ในบ่อนการพนันของต่างประเทศนั้นจะมีเหรียญชิปใช้แทนเงินสด ในบ่อนเบี้ยของไทยเองก็มีเช่นกัน แต่ไม่ใช่ชิป คนไทยเรียกว่า ปี้ และไม่ใช่เหรียญ ปี้ของไทยจะทำจากวัสดุอื่น อย่างกระเบื้อง ทองเหลืองหรือแก้ว ขนาดเล็กประมาณหัวแม่โป้ง มีรูปร่างและลวดลายแตกต่างกันไป ว่ากันว่ามีมากกว่า 5,000 แบบเลยทีเดียว ในช่วงปี พ.ศ. 2316 ประชาชนยังเคยนำเงินปี้มาใช้แทนเงินปลีกในขณะนั้นอีกด้วย เพราะกำลังขาดแคลนการหมุนเวียนของเงินปลีก เงินปี้ก็มีทั้งแบบ 1 สลึง 1 เฟื้อง และ 2 ไพ ตามค่าเงินของยุคสมัยนั้น

            นอกจากนี้ มีช่วงที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับต่างชาติได้มีการเรียกสถานบันเทิงที่ให้บริการด้านการพนันว่ากาซิโน ซึ่งก็มาจากคำว่า Casino นั่นเอง ทุกวันนี้คนไทยก็จะเรียกว่าคาสิโนตามการออกเสียงต่างประเทศมากกว่า

ประวัติศาสตร์ของการพนันในไทย

เริ่มต้นด้วยการกำถั่ว

            หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่งในได้เคยมีการปรากฏและพูดถึงของการพนัน กำถั่ว ขึ้นในปีพ.ศ. 1450 ซึ่งน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากทางจีนเพราะการติดต่อค้าขายกันในสมัยสุโขทัย โดยหลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2100 ก็มีการกล่าวถึงการพนันที่เรียกว่าโป ซึ่งน่าจะเป็นถั่วโปด้วยเช่นกัน

            นักวิชาการทางประวัติศาสตร์หลายคนก็ได้คาดคะเนไว้ว่าไม่น่าจะมีการพนันแค่กำถั่วหรือถั่วโปเท่านั้น อาจมีการพนันชนิดอื่น ๆ ด้วยแต่ยังไม่พบหลักฐานแน่ชัด ข้อสันนิษฐานหนึ่งที่น่าสนใจก็คือแรกเริ่มเดิมทีคนไทยก็รู้จักการพนันกันอยู่แล้ว ด้วยวิธีเดิม ๆ พื้นบ้านที่ยังคงสืบทอดต่อมาจนถึงทุกวันนี้อย่างการชนไก่ ปลากัด ด้วง แข่งเรือ เพราะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าการละเล่นเหล่านี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร แต่ที่ไหนมีการละเล่น ที่นั่นย่อมมีการพนัน คือคำพูดที่ใช้ได้เสมอ ดังนั้นแล้วลำพังแค่การที่จีนนำการพนันเข้ามา ไม่น่าจะเป็นที่นิยมได้หากคนไทยไม่ได้ชื่นชอบการพนันมาแต่แรก

ลาลูแบร์ยังเคยกล่าวถึงการพนันของคนไทย

            ตามบันทึกของลาลูแบร์ ชายชาวฝรั่งเศสที่ได้เข้าเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตกับสยามในปีพ.ศ. 2230 นอกจากเรื่องวัฒนธรรมหรือประเพณีของคนไทยในอดีตแล้ว ยังเคยกล่าวถึงเรื่องการพนันเอาไว้ด้วยว่า “ชาวสยามนั้นรักการพนันกันเป็นอันมาก ยอมกระทั่งสูญเสียลูก เมีย อิสรภาพของตนเพื่อชดใช้หนี้สินจากการพนันได้ แต่หากให้เลิกเล่นการพนันนั้นหามิได้”

            ในปีพ.ศ. 2231 – 2275 หรือสมัยอยุธยาตอนปลาย ก็ได้มีการเริ่มเล่นพนันกันเป็นล่ำเป็นสันเป็นที่เป็นทางมากขึ้น ด้วยให้มีการจัดตั้งบ่อนขึ้นเพื่อเล่นถั่วโปโดยเฉพาะ ซึ่งก็ได้รับอนุญาตจากทางการ และรัฐก็ได้มีการจัดการเก็บภาษี ที่สมัยนั้นเรียกกันว่าอากรบ่อนเบี้ย แต่เป็นบ่อนสำหรับชาวจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในไทยเท่านั้น ช่วงแรกทางการก็พยายามห้ามไม่ให้คนไทยเข้าไปเล่น แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายก็ยังมีคนไทยเข้าไปปะปนเล่นอยู่กับชาวจีนในบ่อนอยู่ดี จนในที่สุดทางการก็จัดตั้งบ่อนขึ้นสำหรับคนไทย ส่วนบ่อนของจีนก็ให้ตั้งไว้ตามเดิม โดยกิจจะลักษณะก็คล้ายคลึงกัน มีการเล่นถั่วโป กำถั่ว กำตัด และไพ่งา

            ถึงอย่างนั้นการจัดตั้งบ่อนก็ใช่ว่าจะราบรื่นตลอด ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่บรมโกศได้ออกคำสั่งห้ามมิให้ข้าราชการขุนนางใด ๆ เล่นการพนัน หากฝ่าฝืนต้องถูกเฆี่ยน 90 ที พร้อมถอดยศถาบรรดาศักดิ์ทั้งหมด แม้ว่าทางการในตอนนั้นยังคงเก็บภาษีอากรจากบ่อนเบี้ยได้จำนวนมากก็ตาม

            ต่อมากฎนี้ก็ได้เริ่มเลือนหายไปในสมัยธนบุรี เนื่องจากตอนนั้นทางการวุ่นวายกับเรื่องศึกสงครามและวุ่นวายอยู่กับการปราบปรามหัวเมืองรวมถึงกลุ่มก๊กนั่นนี่ เพื่อเป็นการผ่อนคลายของเหล่าทหารนายกองทั้งหลาย จึงอนุญาตให้มีการเล่นพนันกันได้ในช่วงวันหยุดพักผ่อน และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น

            ซึ่งทางเราก็คงจะต้องขอจบบทความเอาไว้ที่ตรงนี้ก่อน คราวหน้าเราจะมาต่อกันด้วยการพนันในยุคของรัตนโกสินทร์ รู้หรือเปล่าว่าในยุคนั้นประเทศไทยเคยมีกระทั่งคาสิโนของตัวเองเลยทีเดียว และมีหลักฐานชิ้นสำคัญเป็นเหรียญชิปคาสิโนที่ยังคงหลงเหลือเป็นที่ระลึกมาจนถึงทุกวันนี้ แต่อาจจะหายากกันสักเล็กน้อย เนื่องจากเหรียญชิปนั้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์จึงถูกสงวนเก็บไว้ และถูกเหล่าคนผู้รักการสะสมเหรียญเก็บไว้กับตัวเสียหมดแล้ว ช่างน่าเสียดายจริง ๆ