แต่ละประเทศก็มีวัฒนธรรมบางอย่างที่คล้ายคลึงและแตกต่างกันไป หรือบางทีรับวัฒนธรรมเข้ามาแล้วเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับประเทศตัวเองก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มีความรักและภาคภูมิใจกับวัฒนธรรมของประเทศอย่างญี่ปุ่น บางทีก็มักจะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศให้มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งในวงการการพนัน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักตู้ปาจิงโกะ ตู้ สล็อต แมชชีนสไตล์ญี่ปุ่นกัน

ปาจิงโกะคืออะไร 

ปาจิงโกะ (パチンコ / Pachinko) เป็นตู้เกมที่มีขึ้นในเฉพาะประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ลักษณะของตู้คือจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ที่เอียงเล็กน้อย มีแท่งกีดขวางคล้ายตะปูจำนวนมากแทรกอยู่ และมีรูที่วางกระจายอยู่แบบสุ่ม เราจะต้องใช้ลูกเหล็กขนาดคล้าย ๆ ลูกแก้วของไทย เรียกว่าลูกปาจิงโกะดีดจากด้านล่างของแท่นและต้องพยายามเล่นให้ลูกตกเข้าไปในหลุม บางคนอาจจะเคยเล่นเกมในลักษณะนี้ที่ถูกเรียกว่าพินบอลก็เป็นได้ 

แต่ถึงจะเรียกว่าสล็อตสไตล์ญี่ปุ่นก็ตาม ความจริงแล้วอันที่คล้ายคลึงกับตู้สล็อตแมชชีนมากที่สุด ก็คือปาจิ สล็อต ซึ่งเป็นตู้ที่ต้องใช้ชิปหยอดเข้าไปแล้วกดสุ่มให้ลายบนหน้าจอหรือบนสล็อตตรงกัน ในกรณีนี้ทางเราได้เปรียบเทียบหมายถึงบริบทของมันต่างหาก เนื่องจากคนญี่ปุ่นนิยมเล่นปาจิงโกะเท่ากับที่คนอเมริกานิยมเล่นสล็อตแมชชีนนั่นแหละ 

แล้วเป็นการพนันอย่างไร?

จากที่กล่าวไปข้างต้น วิธีการเล่นของมันเหมือนกับตู้เกมธรรมดาทั่วไปเลยใช่ไหมล่ะ แต่ถึงแม้ในประเทศญี่ปุ่นเองจะพยายามจัดเจ้าตู้ปาจิงโกะนี่เข้าอยู่ในหมวดของตู้เกม มันก็ยังเป็นการพนันอยู่วันยังค่ำ ทั้งจากวิธีเล่นและวิธีได้รางวัลไม่ค่อยจะมีความแตกต่างจากตู้สล็อตด้วยซ้ำ เพียงแต่ญี่ปุ่นพยายามจะทำให้มันเป็นสิ่งถูกกฎหมายอย่างแนบเนียนเท่านั้นเอง รวมถึงทางตำรวจก็พร้อมใจกันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เนื่องจากธุรกิจประเภทนี้มักมีผู้อยู่เบื้องหลังซึ่งมีอิทธิพลกับญี่ปุ่นเสมอ เป็นต้นว่ายากูซ่าหรืออะไรทำนองนั้น ซึ่งผู้รักษากฎหมายก็ไม่ค่อยอยากจะยุ่งด้วยเท่าไร

ปาจิงโกะมาจากไหน

มีความน่าจะเป็นว่าปาจิงโกะได้ถูกลอกเลียนแบบมาจากตู้ Wall Machine ซึ่งเป็นตู้เกมติดผนังของทางฝั่งยุโรป ซึ่งมีโครงสร้างค่อนข้างจะคล้ายกับตู้ปาจิงโกะโดยการต้องดีดลูกบอลผ่านสิ่งกีดขวางต่าง ๆ แล้วลงหลุมนั่นเอง ซึ่งทางฝั่งยุโรปก็บอกว่าตู้นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบิลเลียตญี่ปุ่นอีกที 

ปี ค.ศ. 1930 ตู้ปาจิงโกะเริ่มที่เป็นที่รู้ในญี่ปุ่นที่เมืองนาโกย่า โดยเป็นตู้เกมสำหรับเหล่าผู้ใหญ่ แต่เนื่องจากญี่ปุ่นได้มีส่วนร่วมในสงครามโลกครั้งที่สองช่วงปี ค.ศ. 1940 ก็ส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซาและตู้ปาจิงโกะทั้งหมดก็ถูกปิดตัวลง เมื่อสงครามสิ้นสุดและญี่ปุ่นก็เริ่มฟื้นฟูตัวเอง จนในปี 1948 ก็ได้มีการนำกลับมาอีกครั้งโดยเริ่มจากเมืองนาโกย่าเหมือนเดิม 

ช่วงยุค 80 ตู้ปาจิงโกะจากที่แต่เดิมเป็นตู้ไม้ธรรมดา ๆ ก็ถูกนำมาพัฒนาเป็นเครื่องจักร และเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ เข้าไปมากขึ้นจากเดิมให้ดูมีความหลากหลายน่าสนใจ เป็นต้นว่าวางระบบไฟฟ้า แสง สี เสียงประกอบการเล่นแบบจัดเต็ม แถมยังมีการใช้ IC ชิปแทนลูกเหล็กด้วย มีเพียงโครงสร้างและวิธีการเล่นของมันเท่านั้นที่ยังคงเดิมอยู่ ตู้ปาจิงโกะได้ถูกพัฒนามาเรื่อยจนนิยมอย่างมากในปี 1990 ไม่มีใครที่ไหนไม่รู้จักตู้ปาจิงโกะอีกต่อไป 

ในทุกวันนี้ตู้ปาจิงโกะก็มีลักษณะเป็นเครื่องดีดลูกเหล็กแบบไฟฟ้าอย่างที่เราคุ้นตากันดี แต่ก็มีแบบหน้าจอดิจิตอลใช้ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน ซึ่งจำนวนผู้เล่นก็พอ ๆ กันทั้งแบบคลาสสิคและแบบดิจิตอลเลยทีเดียว นอกจากนี้ตู้ปาจิงโกะสมัยใหม่ก็ยังเต็มไปด้วยการดีไซน์ดึงดูดผู้เล่นทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ ด้วยการออกแบบธีมของตู้ปาจิงโกะให้ดูน่าสนใจด้วยความร่วมมือจากตัวการ์ตูนแอนิเมชั่นทั้งจากญี่ปุ่นและต่างประเทศ เกมที่กำลังเป็นที่นิยม หรือดาราทีวี นักแสดงตลกของญี่ปุ่นก็ยังมี เรียกได้ว่าสรรหาให้ตรงใจกับทุกเพศทุกวัยเลยจริง ๆ 

ประเภทของปาจิงโกะ 

1. ปาจิงโกะ

แบบแรกก็คือตู้ปาจิงโกะแบบทั่วไปซึ่งได้กล่าวเอาไว้แล้วนั่นเอง ซึ่งจะเป็นแบบเลี้ยงลูกเหล็กให้ลงรูแจ็คพอต เมื่อชนะก็จะได้ลูกเหล็กแบบทวีคูณมา ไม่ว่าจะหน้าตาแบบไหน เป็นแบบคลาสสิคตู้หรือว่าแบบหน้าจอดิจิตอล ธีมแบบไหน ตกแต่งอย่างไร ก็เรียกว่าปาจิงโกะทั้งหมด 

2. ปาจิสล็อต

แบบนี้เริ่มพัฒนาขึ้นมาหลังจากที่มีปาจิงโกะแบบดิจิตอลเกิดขึ้น มีชื่อเต็ม ๆ ว่า ปาจิงโกะแบบสล็อต แต่คนญี่ปุ่นจะเรียกกันสั้น ๆ แค่ว่าปาจิสล็อตนั่นเอง ซึ่งวิธีการเล่นจะเหมือนกับตู้สล็อตแมชชีนเป๊ะ ๆ ไม่ต้องนำลูกเหล็กมาเล่น แต่สามารถหยอดเหรียญที่แลกมาลงตู้ กดปุ่มสล็อต แล้วรอผลที่ออกมา ถ้าหากเลขตรงหน้าออกเรียงกัน 3 ตัวก็ถือว่าแจ็คพอตแตกได้รางวัล ส่วนสิ่งที่ได้มาจากการชนะก็จะเป็นเหรียญแบบที่เราหยอดเข้าไปนั่นเอง 

ปาจิงโกะในปัจจุบัน 

ร้านปาจิงโกะนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในปี 1990 มีการบันทึกไว้ว่าร้านปาจิงโกะมีมากที่สุดคือ 15,947 แห่ง แต่ช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้เริ่มตกต่ำมาเรื่อย ๆ อุตสาหกรรมร้านปาจิงโกะจึงขาดทุนและทยอยปิดกิจการกันไป โดยเฉพาะร้านเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนหรือเพิ่งเปิดใหม่ จนช่วงก่อนโควิดเหลือเพียงครึ่งนึงจากเมื่อ 30 ปีก่อนเท่านั้น และส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่ใหญ่หรือเก่าแก่ ทำให้ลูกค้าขาประจำแวะเวียนมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำกำไรขนาดนั้น 

จนกระทั่งช่วงวิกฤตโควิด-19 มาเยือน แน่นอนว่าร้านปาจิงโกะของญี่ปุ่นเองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่แทนที่จะทำให้คนน้อยลง กลับกลายเป็นแหล่งพบปะกันของเหล่าผู้สูงอายุแทนเสียนี่ เพราะว่าถึงจะมีการประกาศสภาวะฉุกเฉินแล้ว แต่ก็ทำได้แค่ขอความร่วมมือให้ร้านปาจิงโกะปิดทำการชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งบางร้านก็ยอม บางร้านที่มีคนหนุนหลังหรือเป็นขาใหญ่มาก ๆ ก็ทำเมินไม่สนใจคำเตือนใด ๆ จากทางการ และเปิดให้บริการตามปกติ พวกคนสูงอายุของญี่ปุ่นก็เลยใช้โอกาสนี้พบปะพูดคุยกันในร้านปาจิงโกะเสียเลย และชาวญี่ปุ่นส่วนหนึ่งเองก็ยังเข้าร้านปาจิโกะตามปกติ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโควิด-19 จากญี่ปุ่นถึงได้ติดกันแล้วติดกันอีก ระลอกสองสามถึงขนาดนี้ ถึงจะมีกฎเกณฑ์หรือมารยาทในสังคมมากแค่ไหน แต่ปฏิบัติไม่ได้ก็จบเหมือนกันนะญี่ปุ่นเอ๋ย 

การแนะนำตู้ปาจิงโกะ เจ้าตู้สล็อตแมชชีนแบบญี่ปุ่นสุด ๆ ก็ได้ทำความรู้จักกันไปแล้วแบบคร่าว ๆ แล้วต่อไปเราจะมาลองเรียนรู้วิธีเล่นตู้ปาจิงโกะ และวิธีหลบกฎหมายการพนันแบบเนียน ๆ ตามวิถีนินจาของคุณพี่ญี่ปุ่นกัน