รูเล็ต (Roulette) เกมส์คาสิโนสุดคลาสสิคที่ได้รับความนิยมจากนักพนันเป็นอย่างมาก ซึ่งรูเล็ตถูกคิดค้นโดยชายชาวฝรั่งเศสและรูเล็ตมีที่มา มาจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า วงล้อเล็ก ๆ โดยวงล้อทั่วไปจะมี 37 ช่อง หรือ 38 ช่อง ผู้เล่นจะต้องเสี่ยงทายและทำการวางเดิมพันของตัวเลขที่ต้องการจะพนันในรอบนั้นๆ ว่าจะวางเดิมพันเป็นเลขคู่ (Even) เลขคี่ (Odd) สีแดง (Red) สีดำ (Black) หรือตัวเลขที่ถูกแบ่งกลุ่ม เช่น กลุ่ม 12 ตัวแรก (1st 12) กลุ่ม 12 ตัวที่สอง (2nd 12) และกลุ่ม 12 ตัวที่สาม (3rd 12) เป็นต้น

รูเล็ต (Roulette) คือเกมส์พนันรูปแบบหนึ่ง ซึ่งรูเล็ตในอดีต ผู้เล่นสามารถเข้าไปเสี่ยงดวงได้ตามบ่อนคาสิโนทั่วไป แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมส์รูเล็ตได้ตามเว็บไซต์พนันออนไลน์และกลายมาเป็นรูเล็ตออนไลน์นั่นเอง โดยรูเล็ตมีรูปแบบการเล่นที่เฉพาะตัวและมีเสน่ห์ในการเล่น  ซึ่งการเล่นรูเล็ตจะใช้วงล้อที่ประกอบไปด้วยตัวเลข 0 – 36 ที่สลับตำแหน่งและสลับสี มีการใช้ลูกเหล็กเล็กๆสีขาวเป็นอุปกรณ์ในการหมุน ให้หมุนไปตามวงล้อเพื่อที่จะออกรางวัล หากลูกเหล็กเล็ก ๆ สีขาวไปหยุดหรือตกลงในช่องตัวเลขใดก็ตามที่อยู่ในวงล้อ เมื่อตัวเลขที่ผู้เล่นได้ทำการเสี่ยงทายและวางเดิมพันไว้แล้วชนะในการเดิมพัน ดังนั้นผู้เล่นก็จะได้เงินรางวัลไปนั่นเอง

รูปแบบโต๊ะของรูเล็ต มีอยู่ 2 รูปแบบ  

• ต๊ะรูเล็ตแบบยุโรป มี 37 ช่อง ประกอบไปด้วยตัวเลข 0 – 36 
• โต๊ะรูเล็ตแบบอเมริกา มี 38 ช่อง ประกอบไปด้วยตัวเลข 0 – 36 และ 00 อีกช่องหนึ่ง

วิธีการวางเดิมพัน รูเล็ต (ไม่รวมทุน) ได้แก่

• เดิมพันแบบตรง คือการวางเดิมพันแบบเจาะจงเฉพาะตัวเลขที่ต้องการวางเดิมพัน ซึ่งอัตราการจ่ายเงินคือ 1 บาทต่อ 35 บาท 
• เดิมพันแบบแบ่ง คือการจับคู่ตัวเลขที่อยู่ติดกัน ไม่ว่าจะเป็นคู่แบบแนวนอนหรือแนวตั้ง ซึ่งอัตราการจ่ายเงินคือ 1 บาทต่อ 17 บาท 
• เดิมพันแบบสตรีท คือการวางเดิมพันตัวเลข 3 ตัวในแนวตั้ง ซึ่งอัตราการจ่ายเงินคือ 1 บาทต่อ 11 บาท 
• เดิมพันแบบมุม คือการวางเดิมพันตรงตำแหน่งมุมทั้ง 4 ตัว ซึ่งอัตราการจ่ายเงินคือ 1 บาทต่อ 8 บาท (การแทงโต๊ด 4 ตัว)
• เดิมพันแบบไลน์ คือการเดิมพันแบบ 2 สตรีท โดยวางเดิมพันในตำแหน่งกึ่งกลางด้านล่างของตัวเลขที่จะเดิมพัน ซึ่งอัตราการจ่ายเงินคือ 1 บาทต่อ 5 บาท (การแทงโต๊ด 6 ตัว)
• เดิมพันแบบโหล คือการวางเดิมพันแบบ 1st 12 (1 – 12) , 2nd 12 (13 – 24) และ 3rd 12 (25 – 36) ซึ่งอัตราการจ่ายเงินคือ 1 บาทต่อ 2 บาท
• เดิมพันแบบสี คือการวางเดิมพันระหว่างสีแดงและสีดำ ซึ่งการเดิมพันแบบสีจะมีความเสี่ยงน้อยมาก ทำให้อัตราการจ่ายเงินคือ 1 บาทต่อ 1 บาท
• เดิมพันแบบคู่ – คี่ คือการวางเดิมพันว่าเลขที่จะออกเป็นคู่หรือคี่ โดยใช้คำว่าคู่,คี่ หรือ Even,Odd ซึ่งอัตราการจ่ายเงินคือ 1 บาทต่อ 1 บาท
• เดิมพันแบบ สูง – ต่ำ คือการวางเดิมพันรูเล็ตในโซนต่ำ (1 – 18) หรือสูง (19 – 36) ซึ่งอัตราการจ่ายเงินคือ 1 บาทต่อ 1 บาท

การวางเดิมพัน รูเล็ต ผู้เล่นจะต้องมีตัวเลขในใจและตั้งใจที่จะวางเดิมพันในตัวเลขนั้น ๆ ก่อนที่จะลงเล่นในแต่ละเกมส์ เมื่อวางเดิมพันลงไปแล้ว ผู้ดูแลก็จะทำการหมุนลูกเหล็กเล็ก ๆ สีขาวที่อยู่ในวงล้อเพื่อสุ่มดูว่าลูกบอลจะไปหยุดที่หมายเลขใด หลังจากที่วงล้อหยุดนิ่งแล้ว ผู้ดูแลจะทำการตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้ก็จะรู้ผลว่าแพ้หรือชนะ ดังนั้น ด้วยรูปแบบวิธีการวางเดิมพันรูเล็ตที่มีรูปแบบที่แตกต่างกัน ทำให้อัตราการจ่ายเงินของการวางเดิมพันรูเล็ตก็แตกต่างกันออกไปด้วย