ตู้สล็อตแมชชีนแต่ละประเทศ เหมือนหรือต่าง (part 1)
ตู้สล็อตแมชชีนแต่ละประเทศ เหมือนหรือต่าง (part 1)

            ตั้งแต่ได้มีการประดิษฐ์ตู้สล็อตแมชชีนขึ้นมาในอดีต สล็อต ก็กลายเป็นเกมการพนันยอดนิยมอย่างไม่เคยตกอันดับแผ่วปลายเลยแม้แต่น้อย คาสิโนใดที่ไม่มีตู้สล็อตแมชชีนถือว่าไม่ใช่คาสิโน นอกจากจะประจำอยู่จนกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของคาสิโนไปแล้ว ยิ่งบ่อนคาสิโนไหนมีมากก็ยิ่งมีความหมายว่าเป็นคาสิโนที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นตามไปด้วย

            แน่นอนว่าด้วยความนิยมขนาดนี้ทำให้มันแพร่หลายและรู้จักกันดีในหลาย ๆ ประเทศ แต่เคยสงสัยหรือเปล่าว่าตู้สล็อตแมชชีนของแต่ละประเทศนอกจากภาษาของประเทศนั้น ๆ แล้วจะมีอะไรแตกต่างกันบ้างหรือเปล่า วันนี้เราจะมาชี้ให้ดูกันว่าตู้สล็อตแมชชีนของแต่ละที่มีความแตกต่างกันยังไง

ชื่อเรียกของตู้สล็อตแมชชีน

สหรัฐอเมริกา

ตู้สล็อตแมชชีน (slot machine) , สล็อต

สหราชอาณาจักร  

ทางฝั่งบริติชเรียกว่า ฟรุตแมชชีน (fruit machine) , ฟรุตตี้  (fruities)

ทางฝั่งสก๊อตแลนด์เรียกว่า พุกกี้ (puggy)

แคนาดา

เดอะสล็อต (the slot)

ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

โป๊กเกอร์แมชชีน (poker machine) , โป๊กกี้ (pokies)

ญี่ปุ่น

ปาจิสล็อต (pachislot) , ปาจิซุโระ (pachisuro)

ประเทศที่มีตู้สล็อตแมชชีนมากที่สุดในโลก 10 อันดับ

            เป็นการจัดอันดับในปี 2010

            1. ญี่ปุ่น มีมากที่สุดถึง 4,900,000 ตู้โดยประมาณ

            2. อเมริกา 820,000 ตู้โดยประมาณ

            3. รัสเซีย 360,000 ตู้โดยประมาณ

            4. สเปน 250,000 ตู้โดยประมาณ

            5. อังกฤษ 220,000 ตู้โดยประมาณ

            6. เยอรมัน 200,000 ตู้โดยประมาณ

            7. อิตาลี 195,000 ตู้โดยประมาณ

            8. ออสเตรเลีย 190,000 ตู้โดยประมาณ

            9. แคนาดา 90,000 ตู้โดยประมาณ

            10. สาธารณรัฐเช็ก 60,000 ตู้โดยประมาณ

ลักษณะของตู้สล็อตแมชชีนในประเทศต่าง ๆ

ตู้สล็อตแมชชีนในสหรัฐอเมริกา

            เริ่มจากอเมริกา ประเทศที่มีการพนันเป็นเรื่องปกติในสังคมและถูกกฎหมาย อีกทั้งยังมีสถิติครอบครองตู้สล็อตแมชชีนมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกอีกด้วย

            ในสหรัฐอเมริกาตู้สล็อตแมชชีนส่วนใหญ่ทั้งแบบสาธารณะและแบบส่วนตัว จะอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสูงโดยรัฐบาลของแต่ละรัฐ หลายรัฐได้มีการจำกัดการครอบครองและการใช้เครื่องสล็อต เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม ซึ่งรัฐเนวาดาเป็นรัฐเดียวไม่มีการจำกัดแต่อย่างใด เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะรัฐเนวาดามีเมืองลาสเวกัสที่ทำเงินด้านนี้อย่างมหาศาลยังไงล่ะ

            โดยรัฐที่ไม่มีข้อจำกัดในการครอบครองตู้สล็อตแมชชีนแบบส่วนตัวนอกจากรัฐเนวาดาก็คือ รัฐอลาสก้า รัฐแอริโซนา รัฐอาร์คันซอ รัฐเคนตักกี้ รัฐเมน รัฐมินนิโซนา รัฐโอไฮโอ รัฐโร้ดไอแลนด์ รัฐเท็กซัส รัฐยูทาห์ รัฐเวอร์จิเนีย และเวสต์เวอร์จิเนีย และรัฐที่ห้ามครอบครองตู้สล็อตแมชชีนเป็นกรรมสิทธิ์ส่วนตัว และห้ามอ้างตนเป็นเจ้าของเครื่องสล็อตแต่เพียงผู้เดียวก็คือรัฐคอนเนคติคัท รัฐฮาวาย รัฐเนแบรนสา รัฐเซาท์แคโรไลนา และเทนเนสซี ส่วนรัฐที่เหลือนั้นจะอนุญาตให้ครอบครองได้ไม่เกิน 25 – 30 ปี

ตู้สล็อตแมชชีนในออสเตรเลีย

            นอกจากชื่อเล่นที่ถูกเรียกว่าโป๊กเกอร์แมชชีนแล้ว ออสเตรเลียยังมีชื่อเรียกตู้สล็อตแมชชีนอย่างเป็นทางการอีกว่า เครื่องเกม หรือเกมมิ่งแมชชีน สถานะของตู้สล็อตแมชชีนเป็นเรื่องสำคัญและค่อนข้างจะเข้มงวด แต่ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละรัฐในออสเตรเลียอยู่ดี

            แต่โดยรวมแล้วสล็อตแมชชีนนั้นจะมีอยู่ในเฉพาะคาสิโน (ซึ่งจะมีอยู่ประมานเมืองละหนึ่งคาสิโน และส่วนมากเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น) ผับและคลับของบางรัฐ ที่แรกในออสเตรเลียที่ยอมรับให้ตู้สล็อตถูกกฎหมายก็คือนิวเซาท์เวลส์ในปี 2499 และถูกนำมาจัดวางในสโมสรที่จะทะเบียนในรัฐ แม้จะมีเสียงคัดค้านว่าเจ้าตู้โป๊กเกอร์หรือสล็อตแมชชีนนั้นจะทำให้ปัญหาการพนันเพิ่มขึ้นก็ตาม

            ในปี 1999 มีสถิติว่าจากตู้สล็อตแมชชีนทั้งหมดของออสเตรเลียอยู่ที่นิวเซาท์เวลส์กว่าครึ่ง ในเวลานั้น 21% ของตู้สล็อตแมชชีนทั้งหมดในโลกได้อยู่ที่ออสเตรเลีย และเคยได้รับการบันทึกว่ามากกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 5 เท่า! แม้ว่าปัจจุบันสหรัฐอเมริกาจะเฟื่องเรื่องคาสิโนและสล็อตแมชชีนจนกินไม่ลงก็ตาม ส่วนออสเตรเลียก็ตกอันดับกลายเป็นครองอันดับที่ 8 ในการมีตู้สล็อตแมชชีน แต่ก็ยังถือว่ามีจำนวนมากอยู่ดี

            รัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียได้มีข้อกำหนดให้ตู้สล็อตแมชชีนในผับและคลับต้องมอบอัตราค่าตอบแทน 85% ส่วนเครื่องที่ตั้งอยู่ในคาสิโนเป็น 90% ให้กับรัฐอย่างไม่มีข้อยกเว้น รัฐอื่น ๆ เองก็มีข้อกำหนดที่คล้ายกัน ยกเว้นรัฐวิคตอเรียที่ปรับอัตราเป็น 87%

            นอกจากนี้ยังมีกฎหมายที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2005 โดยเริ่มจากรัฐวิคตอเรียที่ได้สั่งห้ามเครื่องสล็อตแมชชีนไม่ให้รับธนบัตร 100 ดอลลาห์เพื่อจำกัดวงเงินในการเล่นพนันของนักเล่นตู้สล็อตทั้งหลาย แต่ก็มีข้อยกเว้นเฉพาะผู้เล่นที่มีบัตรสมาชิก VIP สามารถเล่นได้จนกว่าวงเงินจะหมดหรือจะหยุดเล่นไปเสียก่อน

            แต่รัฐของออสเตรเลียที่ค่อนข้างจะเข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องการพนันมากที่สุดก็ต้องบอกว่าเป็นรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย โดยมีข้อบังคับว่าด้วยห้ามมีเครื่องสล็อตแมชชีนอยู่ตามทั่วไป แต่ต้องมีเฉพาะในรีสอร์ทคาสิโน Crown Pearth เท่านั้น และห้ามมีเครื่องสล็อตแบบหมุนวงล้อโดยเด็ดขาด เนื่องจากรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเห็นแก่ประโยชน์ของสาธารณะและผลกระทบที่อาจตามมาจากการเสพติดการพนัน และในอดีตก็เคยแบนจนไม่ยอมให้มีการพนันอยู่ในรัฐกันเลยทีเดียว

            และเนื่องมาจากกฎห้ามไม่ให้มีเครื่องสล็อตแบบวงล้อของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ทำให้เครื่องสล็อตแบบวิดีโอเกมหรือแบบภาพเคลื่อนไหวถูกนำมาใช้แทน

            เมื่อมีการระบาดของโควิด-19 ปีที่แล้ว สถานประกอบการทุกแห่งและเครื่องสล็อตแมชชีนในออสเตรเลียได้ถูกปิดตัวลงชั่วคราว และรัฐก็มีความพยายามอย่างมากที่จะทำให้ยอดการใช้งานเครื่องสล็อตแมชชีนกลายเป็นศูนย์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสไม่ให้ติดต่อกันผ่านทางเครื่องสล็อตแมชชีน

            ซึ่งเราคงต้องขอพักกันไว้ตรงนี้ก่อน ในครั้งหน้าเราจะมาแนะนำลักษณะของตู้สล็อตแมชชีนในประเทศอื่น ๆ กันต่อ โดยแต่ละประเทศจะมีอะไรโดดเด่นและแตกต่างกันออกไปจากนี้อีกหรือเปล่า แล้วมาติดตามกันต่อในพาร์ทที่สองเลย