แบล็คแจ็ค อเมริกัน VS ยุโรป เล่นอันไหนดี
แบล็คแจ็ค อเมริกัน VS ยุโรป เล่นอันไหนดี

            แบล็คแจ็ค เป็นเกมไพ่ซึ่งค่อนข้างเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในฝั่งอเมริกาและยุโรป เนื่องจากเป็นเกมไพ่ที่เล่นง่าย ต่างจากเกมโป๊กเกอร์ที่ค่อนข้างจะใช้กลยุทธ์และจิตวิทยาในการเอาชนะเสียเป็นส่วนใหญ่ แบล็คแจ็คนั้นกว่า 50% ของการชนะขึ้นอยู่กับดวงของคุณด้วย ว่าไพ่ที่จับได้นั้นจะเป็นเลขอะไร จะแต้มต่ำหรือสูงไม่สำคัญ ขอแค่บวกกันให้ได้ 21 เท่านั้นก็ชนะได้แล้ว ทำให้ใคร ๆ หลายคนหลงใหลในความเรียบง่ายของแบล็คแจ็ค

            แต่เกมแบล็คแจ็คนั้นด้วยความที่เป็นที่นิยมมากทำให้การเล่นแพร่กระจายไปยังประเทศต่าง ๆ และเมื่อได้ออกไปสู่สถานที่ต่าง ๆ แล้วก็ย่อมจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์หรือวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งในอเมริกาและยุโรปเรียกเกมไพ่ว่าแบล็คแจ็คเหมือนกันก็จริง แต่กติกาและวิธีการเล่นนั้นกลับมีข้อแตกต่างกันออกไป เราจึงจะมาเปรียบเทียบให้เห็นว่าเกมไพ่แบล็คแจ็คนั้นของอเมริกาหรือของยุโรป เหมือนหรือแตกต่างกันยังไง และควรเลือกเล่นอันไหนดี

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ แบล็คแจ็ค

            เกมไพ่แบล็คแจ็ค (blackjack) ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามาจากไหน หรือใครเป็นคนคิด แต่ส่วนใหญ่ข้อสันนิษฐานเชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดจากดินแดนน้ำหอมอย่างฝรั่งเศส การเล่นคือจั่วไพ่จนกว่าจะได้ 21 แต่ห้ามเกิน 21

                           แต้มไพ่ของแบล็คแจ็ค

                                          A: 1 หรือ 10 (สามารถเลือกได้อย่างอิสระว่าให้เป็น 1 หรือ 10 แต่เลือกได้ครั้งเดียวต่อ 1 ตา หรือตามกฎของคาสิโนนั้น ๆ)

                                          1 – 10: มีแต้มเท่าหน้าไพ่

                                          J Q K: 10

                           ศัพท์ของแบล็คแจ็ค

                                          Blackjack: การขานเมื่อได้แต้ม 21 ในสองใบแรก

                                          Hit: การเรียกไพ่เพิ่มจากดีลเลอร์หรือเจ้ามือ

                                          Stand: การหมอบ หรือจบการจั่ว

                                          Double down: ขานได้ต่อเมื่อมีไพ่ในมือเพียงสองใบ เป็นการวางเดิมพันเพิ่มขึ้นเท่าตัว และจะสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้ 1 ใบ

                                          Split: เป็นการขานต่อเมื่อได้ไพ่แต้มซ้ำกันมากกว่า 1 ใบ จะสามารถแยกกองไพ่ได้ และวางเงินเดิมพันแต่ละกองอย่างเท่า ๆ กัน (หรือตามกฎของคาสิโนนั้น ๆ)

                                          Surrender: การขอยอมแพ้ในตานั้น ๆ ซึ่งจะได้ประกันหรือเงินเดิมพันคืนมาตามอัตราที่คาสิโนกำหนด แต่ต้องทำในตอนที่มีไพ่ในมือแค่สองใบเท่านั้น

                                          Insurance: ในกรณีที่ไพ่ใบที่หงายของเจ้ามือคือ A เจ้ามือจะถามว่า Insurance หรือเปล่า ถ้าทำผู้เล่นจะต้องวางเงินเดิมพันเพิ่มอีกครึ่งนึง หากเจ้ามือได้แบล็คแจ็คจะได้เงินส่วนที่ลง Insurance กลับมา แต่ถ้าหากเจ้ามือแพ้จะสูญเงิน Insurance ไปแทน (เพราะหากเจ้ามือได้ A มีโอกาสที่จะทำแบล็คแจ็คได้ในสองใบสูง)

ความแตกต่างของจำนวนสำรับ

            อเมริกัน

                           ใช้ไพ่ 4 สำรับ

            ยุโรป

                           ใช้ไพ่ 6 สำรับ (บางกติกาอาจจะ 8 สำรับ)

หรือก็คือโดยทั่วไปแล้วแบล็คแจ็คยุโรปนั้นใช้สำรับมากกว่าแบล็คแจ็คอเมริกันนั่นเอง

ความแตกต่างของกติกาการเล่นแบล็คแจ็ค

            อเมริกัน

  1. ผู้เล่นจะได้รับไพ่คว่ำหน้า 2 ใบ  
  2. เจ้ามือจะต้องมีไพ่หงาย 1 ใบและคว่ำ 1 ใบ
  3. เมื่อไม่มีผู้เล่นคนไหนต้องการจั่วเพิ่มแล้ว เจ้ามือจะต้องจั่วไพ่เพิ่ม (หากเจ้ามือได้แบล็คแจ็คภายใน 2 ใบก็ไม่จำเป็นต้องจั่ว ให้เจ้ามือและทุกคนหงายไพ่เป็นอันจบเกมทันที)
  4. ซึ่งเจ้ามือจะต้องจั่วไพ่จนกว่าแต้มจะมากกว่า 17 ขึ้นไปเท่านั้น เมื่อเจ้ามือพอกับการจั่วแล้วจะต้องหงายไพ่ และผู้เล่นค่อยหงายตาม
  5. ใครใกล้เคียงหรือได้ 21 เท่ากับว่าชนะ
  6. ในกรณีที่มีคนจั่วเกิน 21 หรือบัสต์ถือว่าแพ้ทันที โดยไม่ต้องดูว่าในตานั้น ๆ มีใครถึง 21 หรือเปล่า  

            ยุโรป

  1. ผู้เล่นจะได้รับไพ่คว่ำหน้า 2 ใบ  
  2. เจ้ามือจะได้รับไพ่หงาย 1 ใบ
  3. เจ้ามือจะต้องจั่วไพ่จนกว่าแต้มจะมากกว่า 17 ขึ้นไปเท่านั้น (จั่วตาละ 1 ใบ)
  4. เมื่อไม่มีผู้เล่นคนไหนต้องการจั่วเพิ่มแล้ว จะต้องหงายไพ่โดยเริ่มจากเจ้ามือก่อน
  5. ใครใกล้เคียงหรือได้ 21 เท่ากับว่าชนะ
  6. ในกรณีที่มีคนจั่วเกิน 21 หรือบัสต์ถือว่าแพ้ทันที โดยไม่ต้องดูว่าในตานั้น ๆ มีใครถึง 21 หรือเปล่า  

            หรือก็คือแบล็คแจ็คของยุโรปนั้นค่อนข้างซับซ้อนกว่า เพราะจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเจ้ามือจะได้ไพ่ใบที่สองเป็นอะไร นอกเหนือจากนี้คือยังไม่สามารถสังเกตท่าทีหรือสีหน้าของเจ้ามือได้ด้วย เป็นแบล็คแจ็คที่ค่อนข้างอ่านเกมยาก และต้องวางเดิมพันทั้งอย่างนั้น แต่จะทำให้เจ้ามือมีโอกาสได้แบล็คแจ็คช้า เกมจบช้าลง และอาจเหมาะกับการดวลระหว่างผู้เล่นด้วยกันเองมากกว่าเจ้ามือ

ความแตกต่างของการ Split

            การสปลิตหรือการแยกไพ่ เป็นกฎพิเศษของเกมแบล็คแจ็ค นั่นคือสามารถแบ่งไพ่ออกเป็นหลายกองได้ เพียงแต่ผู้เล่นจะต้องแบกรับความเสี่ยงและการวางเดิมพันที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

            อเมริกัน

  • เมื่อได้ไพ่เลขเดียวกัน เช่น AA, 11 หรือ 22 สามารถเพิ่มกองไพ่ได้ไม่จำกัด ซึ่งสูงสุดจะอยู่ที่ 4 กอง   
  • หากไพ่เลขเดียวที่ได้เป็น A จะจั่วไพ่ได้กองละ 1 ใบ
  • แต่ถ้าไพ่เลขเดียวเป็นแต้มอื่นที่ไม่ใช่ A สามารถจั่วไพ่แต่ละกองได้ไม่จำกัด
  • J Q K ที่ถือเป็น 10 หากได้แต้มเดียวกันก็สามารถแยกกองได้ เช่น JK, 10Q, KQ เป็นต้น
  • ในกรณีที่มีหลายกอง สามารถเป็นแบล็คแจ็คได้แค่สองใบแรกของกองนั้น ๆ หากได้ 21 ในใบที่สามจะไม่ถือว่าเป็นคะแนนแบล็คแจ็ค

            ยุโรป

  • สามารถแยกกองได้ต่อเมื่อได้ไพ่เลขซ้ำในสองใบแรก หรืออยู่ติดกันเท่านั้น เช่น ครั้งที่ 1ได้ A ครั้งที่สองได้ A และครั้งที่สามได้ A อีก สูงสุดจะอยู่ที่ 4 กองเท่านั้น
  • หากไพ่เลขเดียวที่ได้เป็น A จะจั่วไพ่ได้กองละ 1 ใบ
  • แต่ถ้าไพ่เลขเดียวเป็นแต้มอื่นที่ไม่ใช่ A สามารถจั่วไพ่แต่ละกองได้ไม่จำกัดจนกว่าจะหยุด หรือหมอบ
  • ในกรณีที่มีหลายกอง สามารถเป็นแบล็คแจ็คได้แค่สองใบแรกของกองนั้น ๆ หากได้ 21 ในใบที่สามจะไม่ถือว่าเป็นคะแนนแบล็คแจ็ค

            หากดูจากโดยรวมแล้ว แบล็คแจ็คสไตล์ของอเมริกันจะดูเล่นง่ายกว่า ไม่มีอะไรยุ่งยากมากมายแบบของยุโรป แต่เอาตามจริงแล้วแบบยุโรปก็มีเสน่ห์และความตื่นเต้นที่เพิ่มมากขึ้นมาให้ด้วย หากคุณกำลังลังเลว่าจะเลือกเล่นแบบไหนดี ก็สามารถลองเข้าไปเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ใน PG SLOT ได้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งในรูปแบบอเมริกันและยุโรปเลย ถ้ายังไม่อยากวางเงินเดิมพันก็สามารถเล่นในโหมดทดลองเล่นก่อนได้ ทดสอบดูด้วยตัวเองว่าชอบแบล็คแจ็ครูปแบบไหนมากกว่ากันน่ะดีที่สุดแล้ว