ไพ่นกกระจอกจีน VS ญี่ปุ่น เหมือนกันหรือเปล่า
ไพ่นกกระจอกจีน VS ญี่ปุ่น เหมือนกันหรือเปล่า

ไพ่นกกระจอก เดิมเป็นการละเล่นพื้นเมืองของประเทศจีน ซึ่งแต่ละเมืองของจีนก็จะมีการประยุกต์เกมกันไปตามกฎของตัวเอง ไพ่นกกระจอกนั้นถูกนับเป็นการพนันชนิดหนึ่งและควรจะเป็นสิ่งต้องห้ามตามนโยบายของรัฐบาลจีนอย่างเช่นการพนันชนิดอื่น แต่สำหรับไพ่นกกระจอกกลับได้รับการส่งเสริมการละเล่นนี้ โดยถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่ควรอนุรักษ์ไว้ ซึ่งก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่เข้มงวด เป็นต้นว่า ห้ามเล่นเกินเที่ยงคืน

ทางด้านญี่ปุ่นเองก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่การพนันเป็นเรื่องผิดกฎหมายเช่นกัน แต่ก็จัดไพ่นกกระจอกให้อยู่ในหมวดของบอร์ดเกมแทน ซึ่งญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมทางด้านนี้มาจากจีนอีกที เพียงแต่เปลี่ยนกฎกติกาและรูปแบบเกมแล้วเรียกว่าเป็นของตัวเอง ดังเช่นตู้ปาจิงโกะที่มีต้นแบบมาจากตู้สล็อตนั่นเอง

พื้นฐานของไพ่นกกระจอก

ไพ่นกกระจอกจีน

            จีนนั้นมีไพ่ทั้งหมด 144 ใบ ชุดลูกเต๋า 2 – 3 ลูก ผู้เล่นสี่คน และตัวบอกทิศ ผู้เล่นจะมีไพ่ 13 ใบในตอนเริ่มต้นและจั่วอีก 1 ใบรวมเป็น 14 ใบ

ไพ่นกกระจอกญี่ปุ่น

            ฝั่งญี่ปุ่นจะมีใบทั้งหมด 136 ใบ ชุดลูกเต๋าสามลูก ผู้เล่นสี่คน และตัวบอกทิศ ผู้เล่นจะไพ่ 13 ใบในตอนเริ่มต้นและจั่วอีก 1 ใบรวมเป็น 14 ใบ

หน้าไพ่และอุปกรณ์

ไพ่นกกระจอกจีน

            ไพ่นกกระจอกทางฝั่งจีนจะประกอบด้วยไพ่ทั้ง 5 ชุดมาตรฐานด้วยกัน เรียกว่า ชุดท้ง ชุดเสาะ ชุดบ่วง ชุดทิศทั้งที่ และชุดมังกร โดยผู้เล่นบางกลุ่มอาจจะมีมากถึง 7 ชุดด้วยกันซึ่งจะเพิ่มชุดดอกไม้ และชุดฤดูกาลเข้ามาด้วย

  • ไพ่ชุดท้ง

ลายไพ่มีลักษณะเป็นวงกลมมีสีสันมีเลข 1 – 9 ซึ่งแต่ละตัวจะมีอย่างละ 4 ตัว รวมเป็น 36 ตัว

  • ไพ่ชุดเสาะ

เสาะ แปลว่ากิ่งไม้ ดังนั้นลักษณะของไพ่ชุดนี้จะเป็นท่อนสีเขียวหน้าตาคล้ายคลึงกับกิ่งไม้ ในผู้ผลิตบางรายอาจจะออกแบบให้เลขหนึ่งของชุดนี้เป็นรูปนกเกาะบนกิ่งไม้เพื่อความสวยงามก็ได้ ซึ่งชุดนี้จะมีเลข 1 – 9 อย่างละ 4 ตัว รวมเป็น 36 ตัว

  • ไพ่ชุดบ่วง

บ่วง มีความหมายว่าหมื่น ไพ่ชุดนี้จะเป็นตัวอักษรจีนล้วน ๆ ตั้งแต่ 1 – 9 มีอย่างละ 4 ตัว รวมกันเป็น 36 ตัว

  • ไพ่ชุดทิศ

ไพ่ชุดทิศก็คือมีตัวอักษรจีนซึ่งแปลว่าทิศทั้งที่ 4 เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก แต่ละทิศอย่างละ 4 ตัว รวมเป็นทั้งหมด 16 ตัว

  • ชุดมังกร

ไพ่ชุดมังกรจะมีทั้ง 3 แบบ ก็คือ มังกรแดงเรียกว่าตง มังกรเขียวเรียกว่าแชฮวด (ฮวดใช้) มังกรขาวเรียกว่าแปะปั้ง มีทั้งหมดอย่างละ 4 ตัวรวมเป็น 12 ตัว

  • ไพ่ชุดดอกไม้

ไพ่ชุดนี้จะเป็นรูปดอกไม้ทั้งหมด 4 สายพันธุ์ นั่นก็คือ ดอกพลัม ดอกกล้วยไม้ ดอกเก็กฮวย และดอกไผ่ ซึ่งจะมีเพียงแค่อย่างละ 1 รวมกันเป็น 4 ตัวต่อชุด

  • ไพ่ชุดฤดูกาล

ไพ่ชุดนี้จะมีหน้าไพ่เป็นรูปดอกไม้แต่จะมีอักษรจีนเขียนกำกับไว้ว่าเป็นฤดูอะไร ซึ่งประกอบด้วยฤดูทั้ง 4 นั่นก็คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว

  • ลูกเต๋าและตัวกำหนดทิศ

การเล่นไพ่นกกระจอกจะมีลูกเต๋าทั้งหมด 2 – 3 ลูกด้วยกัน และตัวกำหนดทิศ 4 ทิศหลัก

  • โต๊ะ

โต๊ะที่ใช้เล่นส่วนใหญ่จะเป็นโต๊ะเล่นเฉพาะไพ่นกกระจอก มี 4 ด้านและยาวด้านละ 36 นิ้ว แต่ถ้าหากจะใช้โต๊ะธรรมดาเล่นก็ย่อมได้

ไพ่นกกระจอกญี่ปุ่น

            ไพ่นกกระจอกของญี่ปุ่นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ

  1. แบบตัวเลข สามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีก 3 ชุด คือชุดหมื่น ชุดไผ่ และชุดปิง

ชุดหมื่น จะเป็นตัวเลขตามอักษรคันจิญี่ปุ่นทั้งหมดตั้งแต่ 1 – 9 อีมัง เรียมมัง ซันมัง ซูมัง อูมัง โรมัง จีมัง ปามัง และคิวมังตามลำดับ

ชุดไผ่ จะเป็นรูปต้นไผ่สีเขียวซึ่งจะเปลี่ยนไปตามจำนวนเลขหรือเรียกว่าเชือกถ้ารูปบนหน้าไพ่เป็นรูปเชือก มีตั้งแต่ 1 – 9 เรียกว่า อีโซ เรียมโซ ซันโซ ซูโซ อูโซ โรโซ จีโซ ปาโซ และคิวโซ

ชุดปิง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเหรียญเพราะรูปบนหน้าไพ่มีลักษณะคล้ายเหรียญ มีตั้งแต่ 1 – 9 ปิง เรียกได้เป็น อิปิง เรียมปิง ซันปิง ซูปิง อูปิง โรปิง จีปิง ปาปิง และคิวปิง

2. แบบตัวอักษร สามารถแบ่งย่อยออกได้อีก 2 ชุดเช่นกัน ซึ่งประกอบด้วย 4 ทิศ ใต้ เหนือ ตะวันออก และตะวันตกเรียกว่า ทง นัน ชา เป ตามลำดับ กับไพ่ชุดพิเศษ หรือชุดมังกรอีก 3 ตัวเรียกว่า ชุง ฮะคุ และฮัทสึ

นอกจากนั้นทั้งโต๊ะ ตัวบอกทิศ และลูกเต๋าค่อนข้างจะไม่ต่างกับจีน

วิธีการเล่น

            ในวิธีการเล่นนี้ส่วนใหญ่แล้วไพ่นกกระจอกแบบจีนกับญี่ปุ่นจะค่อนข้างเหมือนกัน

1. แจกไพ่ให้ผู้เล่นแต่ละคน คนละ 13 ใบ จากนั้นผู้เล่นจึงเล่นกันตามลำดับทิศ

2. คนที่ได้ลำดับแรกจะมีสิทธิ์จั่วไพ่ก่อน 1 ใบ จากนั้นจึงทิ้งที่อยู่ในมือ 1 ใบ ให้เหลือทั้งหมด 13 ใบ

3. วิธีชนะคือต้องจัดไพ่ในมือให้ครบชุดตามหลัก

4. ในตอนที่ผู้เล่นแต่ละคนทิ้งไพ่ ผู้เล่นคนอื่นมีสิทธิ์ที่จะเก็บไพ่ที่ถูกทิ้งเพื่อมาจัดชุดไพ่ในมือของตนเอง ซึ่งเราจะสามารถเรียกเก็บได้ทันทีที่ผู้เล่นคนนั้นทิ้งไพ่ลงมา แต่หากปล่อยผ่านไปแล้วจะไม่สามารถย้อนกลับไปเก็บได้อีก

5. ไพ่ที่ถูกทิ้งแล้วให้นำมาวางด้านหน้า และไพ่ใบใหม่ที่ถูกทิ้งจะต้องวางด้านขวาของใบเก่าเสมอ เมื่อครบทั้ง 6 ใบแล้วก็ต้องตัดวางขึ้นแถวใหม่

6. หลังจากเก็บไพ่มาแล้ว เราต้องนำไพ่ที่เก็บมาวางรวมกับไพ่ในมือของเราที่สามารถนำมาเข้าชุดกันได้แล้ววางหงายให้ทุกคนเห็นที่มุมโต๊ะด้านขวาของที่นั่งเรา

7. ทำแบบนี้ซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะสร้างรูปแบบไพ่ได้ครบ 4 ชุดและไพ่คู่บนมือ ก็จะสามารถน็อคผู้เล่นคนอื่นได้ เพียงแต่ไพ่นกกระจอกจีนจะขานตอนชนะว่า ‘เหมาะเจี๊ยะ’ ส่วนฝั่งญี่ปุ่นถ้าหยิบไพ่มาจากผู้เล่นอื่นแล้วชนะต้องขานว่า ‘ล่ง’ (Ron) แต่ถ้าจั่วแล้วชนะต้องขานว่า ‘ซึโมะ’ (Tsumo)

            วัฒนธรรมของจีนและญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกันหลายแบบ เนื่องจากการเข้าไปญี่ปุ่นของจีน และญี่ปุ่นก็รับมาก่อนจะดัดแปลงของของจีนจนกลายเป็นวัฒนธรรมของตัวเอง การที่จะมีกลิ่นอายใกล้เคียงกันก็ไม่แปลกนัก อีกทั้งยังเหมือนกันในด้านแปลก ๆ คือทั้งที่รัฐบาลของสองประเทศต่างมีนโยบายยับยั้งการพนันแต่กลับสนับสนุนการละเล่นไพ่นกกระจอกหรือบอกว่าเป็นแค่เกมกระดานด้วยนะ

            แต่สำหรับประเทศไทยถึงแม้ว่าไพ่นกกระจอกจะไม่ค่อยฮิตแล้วหาเล่นได้ยาก ก็ไม่ต้องไปดั้นด้นหาวงไพ่นกกระจอกที่ไหนเล่นให้ไกล และไม่ต้องออกจากบ้านไปแหล่งชุมชนที่ยังโควิด-19 ยังไม่จางหายด้วย เพราะ PG SLOT ค่ายเกมสล็อตออนไลน์ที่ทำให้เกมออกมาให้มากมายมีเกมไพ่นกกระจอกออนไลน์ให้เล่นด้วย ไม่ว่าอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรเพียงแค่ยังมีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเล่นได้อย่างสะดวกสบายแล้ว