คนไทยนั้นได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศผ่านทางการค้าขายตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ไม่มีหลักฐานระบุเอาไว้อย่างชัดเจน แต่มีข้อสันนิษฐานคาดกันว่าการ์ดหรือกระดาษแข็งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดพอดีมือ ที่คนไทยเรียกกันว่า ไพ่ ได้รู้จักผ่านทางการค้าขายกับโปรตุเกส จากเดิมทีการพนันในไทยเคยได้รับอิทธิพลมาจากจีนจำพวกกำถั่ว กำโป และหวย เมื่อได้รู้จักกับไพ่จึงนำมาเล่นในบ่อนการพนันไทยเช่นกัน ในบทความนี้จึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเกมไพ่ที่คนไทยนำมาปรับเปลี่ยนเป็นของตนเอง และค่อนข้างเป็นที่นิยมมาให้ดูกัน

1. ไพ่ป๊อกเด้ง

            ถ้าเป็นคนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักพนันนักเสี่ยงโชคด้วยแล้ว จะไม่มีทางรู้จักเกมไพ่ป๊อกเด้งเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ ป๊อกเด้งเป็นเกมไพ่ที่พบเห็นได้ทั่วไปตามบ่อนคาสิโน หรือเป็นเกมเล่นกันสนุก ๆ ขำ ๆ ก็ตาม ไม่มีประวัติการกำเนิดในไทยแน่ชัด แต่เพราะความรวดเร็วในการเล่นและการอาศัยดวงเป็นหลักก็ทำให้คนไทยถูกใจจนกลายเป็นเกมสามัญประจำบ่อนไปเสียแล้ว

วิธีการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง

1. เจ้ามือจะต้องแจกไพ่ 2 ใบให้แก่ผู้เล่น เวียนไปในทิศใดทิศหนึ่งโดยเจ้ามือจะต้องแจกให้ตนเองเป็นคนสุดท้าย
2. หากผู้เล่นได้แต้ม 8 หรือ 9 จากไพ่สองใบในมือให้บอกทันทีเพื่อวัดผล
3. ถ้าเจ้ามือได้ไพ่ป๊อก ผู้เล่นทุกคนต้องเปิดไพ่ในมือทันที
4. แต่ถ้าเจ้ามือไม่ป๊อก ผู้เล่นทุกคนจะมีสิทธิเรียกไพ่ใบที่ 3 ได้ ส่วนเจ้ามือก็สามารถเรียกไพ่ใบที่ 3 ได้แต่จะไม่เรียกก็ได้เช่นกัน

วิธีชนะไพ่ป๊อกเด้ง

1. ถ้าไพ่ในมือใครมีค่ารวมเป็นแปดหรือเก้า จะเรียกว่าป๊อกแปดและเก้าตามลำดับ โดยไพ่ J Q K ถือเป็น 0 หรือ 10 ไพ่ A นับเป็น 1 กรณีที่ไพ่ในมือรวมกันเกิน 10 แต้มจะนับเฉพาะหลักหน่วย เช่นในมือมีไพ่ 10 กับ 5 รวมกันเป็น 15 ให้นับแค่ 5 แต่ถ้าหากรวมแล้วได้หลักหน่วยเป็น 0 จะไม่ได้คะแนน

2. ถ้าเจ้ามือได้ป๊อก

• ผู้เล่นจะต้องไพ่ป๊อกที่สูงกว่าเจ้ามือ
• ถ้าผู้เล่นได้ป๊อกแต้มเสมอกับเจ้ามือ จะถือว่าไม่ได้ไม่เสีย

3. ถ้าเจ้ามือไม่ได้ป๊อก

• ผู้เล่นที่มีสองใบขึ้นไปจะต้องมีแต้มมากกว่าสี่

4. ถ้าเจ้ามือไม่เรียกไพ่เพิ่ม

• ผู้เล่นต้องมีแต้มเหนือกว่าเจ้ามือ
• ถ้าผู้เล่นเสมอกับเจ้ามือ จะถือว่าไม่ได้ไม่เสีย

2. ไพ่เก้าเก

            ไพ่เก้าเก ก็เป็นอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย โดยวิธีการเล่นจะค่อนข้างคล้ายคลึงกับป๊อกเด้งผสมกับโป๊กเกอร์ของตะวันตก เนื่องจากเป็นเกมไพ่พื้นบ้านอีกอย่างหนึ่งเช่นเดียวกับป๊อกเด้งไปแล้ว จึงไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหน ใครเป็นคนคิดหรือดัดแปลง และมีส่วนเกี่ยวข้องกับโป๊กเกอร์หรือได้รับแรงบันดาลใจมาอย่างไร

วิธีการเล่นไพ่เก้าเก

1. เจ้ามือหรือผู้ชนะในตาที่แล้วต้องแจกไพ่ 3 ใบให้กับผู้เล่น โดยเจ้ามือหรือผู้ชนะจะต้องแจกให้ตนเองเป็นคนแรกจากนั้นต้องแจกวนไปทางซ้ายของเจ้ามือหรือผู้ชนะ
2. เมื่อได้ไพ่ครบแล้ว ผู้เล่นจะต้องเกทับกันดังชื่อเกมเลย โดยจะต้องวางเดิมพันว่ามั่นใจในไพ่ของตนแค่ไหน เริ่มจากผู้ได้ไพ่คนแรกจะต้องเกทับและวางเดิมพันก่อน วนไปทางซ้ายจนครบทุกคน
3. ผู้เล่นที่ไม่มั่นใจในไพ่สามารถหมอบหรือยอมแพ้ได้
4. หากไม่มีผู้เล่นคนไหนจะเกทับเพิ่มแล้ว ให้เปิดไพ่ดูว่าใครมีแต้มไพ่ใหญ่ที่สุด ผู้ชนะจะได้เงินเดิมพันทั้งหมดไป

วิธีชนะไพ่เก้าเก

1. ถ้าไพ่ในมือใครมีค่ารวมเป็นเก้าจะถือว่าเป็นไพ่ใหญ่ที่สุด โดยไพ่ 10  J Q K ถือเป็น 0 และไพ่ A นับเป็น 1 กรณีที่ไพ่ในมือรวมกันเกิน 10 แต้มจะนับเฉพาะหลักหน่วย เช่นในมือมีไพ่ 10 กับ 5 รวมกันเป็น 15 ให้นับแค่ 5 แต่ถ้าหากรวมแล้วได้หลักหน่วยเป็น 0 จะไม่ได้คะแนน

2. ได้ไพ่แต้มพิเศษ ซึ่งไม่ต้องมีผลบวกเป็น 9 ก็ได้ เรียงแต้มจากน้อยไปมากได้ดังนี้

• สีเดียวกันหรือดอกเดียวกันทั้งสามใบ
• ได้ไพ่เรียง ไพ่บนมือทั้งสามใบเรียงมีจำนวนแต้มเรียงกัน เช่น 2 3 4 หรือ 9 10 J แต่ถ้าแต้มบนไพ่น้อยกว่าก็ย่อมแพ้ไพ่ที่แต้มเยอะกว่า
• ได้ไพ่เซียน ไพ่บนมือทั้งสามใบเป็นแต้มที่มีหน้าไพ่ หรือก็คือเป็น J Q K ทั้งสามใบนั่นเอง โดยไม่จำเป็นต้องเรียงกัน จะเป็น J J K หรือ K Q K ก็ย่อมได้
• ได้ไพ่ตอง ได้รับไพ่หน้าเดียวกันทั้ง 3 ใบ เช่น 9 9 9 หรือ J J J
• ได้ไพ่สเตรทฟลัช หน้าไพ่ที่มีแต้มเรียงกันและมีสีเดียวกัน เช่น J Q K เป็นโพธิ์ดำทั้งหมด หรือ 5 6 7 เป็นดอกจิกทั้งหมด แต่ถ้าแต้มบนไพ่น้อยกว่าก็ย่อมแพ้ไพ่ที่แต้มและดอกเยอะกว่าอยู่

3. ถ้าหากมีแต้มเป็นเก้าเท่ากัน จะต้องนับที่หน้าไพ่ว่าใครใหญ่กว่ากัน เรียงจากน้อยไปมากได้ดังนี้

• ดอกของไพ่เรียงได้ดังนี้ ดอกจิก ข้าวหลามตัด โพธิ์แดง โพธิ์ดำ
• หน้าไพ่เรียงได้ดังนี้ J Q K

4. กรณีที่เหลือผู้เล่นเพียงคนเดียว และคนอื่น ๆ ต่างหมอบไพ่กันหมดแล้ว ผู้เล่นที่เหลืออยู่นั้นจะถือว่าชนะไปทันที ไม่จำเป็นต้องนับแต้มหรือหงายไพ่ให้ดูเลยแต่อย่างใด

            ซึ่งในบทความนี้ขอจบเอาไว้เพียงเท่านี้ก่อน ครั้งหน้าเราจะมาต่อกันด้วยเกมไพ่ที่เป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่ม แต่ใครหลายคนก็อาจจะรู้จักกันดีอย่างไพ่แคง และไพ่ดัมมี่นั่นเอง